เรื่อง เบตงคือเมืองที่น่าอยู่
เมืองเบตง เป็นอำเภอชายแดนใต้สุดของประเทศไทย
อยู่ห่างจากยะลา 115 กม.เป็นเมืองใหญ่ มีความเจริญ
ทัดเทียมกับจังหวัดยะลาเลยทีเดียว มีถนนเชื่อมสู่เขตสหพันธรัฐ
มาเลเซียตรงด่านเบตงซึ่งอยู่ใต้สุดของเขตแดนไทย
ตัวเมืองตั้งอยู่ในเขตที่โอบล้อมด้วยทิวเขาสูงอากาศเย็นสบาย สามารถปลูกดอกไม้ได้ทั้งปี
จนได้ชื่อว่า "เมืองในหมอก ดอกไม้งาม" มีนกนางแอ่นเป็นสัญลักษณ์ของเมือง
ช่วงเดือนกันยายน-มีนาคม จะมีนกนางแอ่นมาพักอาศัยในเมืองนี้นับหมื่นตัว
อำเภอเบตงใต้สุดของประทศเรา ถูกตั้งเป็นอำเภอเมื่อปี
พ.ศ.2441 คำว่า เบตง มาจากภามลายุว่า Buluh Betong ซึ่งหมายถึงไม้ไผ่ หรือ ไผ่ตง เราตามไปดุสถานที่ท่องเที่ยวของเมืองเบตงกันนะคะ
เริ่มต้นกันด้วยกราบไหว้พระเพื่อเป็นสิรุงคลกันก่อนนะคะ วัดพุทธาธิวาสเป็นสถาปัตยกรรมที่งดงามจัดสร้างอย่างมีชั้นเชิง ลดหลั่นตามสภาพความลาดเอียงของภูมิประทศ
ก่อเกิดเป็นศาสนสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ อันเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของผู้ที่มานมัสการมิเคยขาด
อีกหนึ่งสถานที่แนะนำให้เยี่ยมชม คือ มัสยิดกลางอำเภอเบตง ซึ่งมีอารธรรมอันงดงามของศาสนาอิสลาม คือจารีต ประเพณีสำคัญ
ที่สั่งสมมายังลูกหลาน
ก่อเกิดเป็นการกระทำที่หนักแน่น
แต่แฝงด้วยข้คิดที่จรรโลงไว้ซึ่งหลักธรรมคำสอน
และแนวทางการปฎิบัติอันเอกภาพ
ไปต่อกันเลยนะคะ ที่อุโมงค์ปิยะมิตร
ซึ่งเป้นฝีมือของกลุ่มขบวนการโจรจีนคอมมิวนิสต์มลายาเมื่อปีพ.ศ. 2519
มีวัตถุประสงค์ในการก่อสร้างเพื่อใช้เป็นฐานปฎิบัติการเพื่อหลบภัยทางอากาศ และสะสมเสบียง
ตั้งอยู่บนเนินเขาที่ล้อมรอบด้วยป่าทึบ
มาชมกันต่อที่หอนาฬิกาคู่บ้านคู่เมือง เปรียบเป็นสัญลักษณ์ที่ตั้งอยู่จุดศูนย์กลางของเมือง ทำการก่อสร้างด้วยหินอ่อนอันเลื่องชื่อจากจังหวัดยะลา ซึ่งได้รับการยอมรับในเรื่องของความแข็งแรง
สวยงามและคงทน ส่งความเป็นหนึ่งของหอนาฬิกาเบตงคงอยู่ที่การมีนกนางแอ่นนับหมื่นตัวจากไซบีเรียมาเกะอยู่รอบ
ๆ หอนาฬิกา จนกลายมาเป็นสัญลักษณ์คู่หอนาฬิกาและคู่เมืองเบตงในยามค่ำคืนที่ไม่รบกวนความเป็นของมัน
เหล่านกนางแอ่นจึงอยู่คู่กับเบตงให้ชมจนถึงทุกวันนี้
ดิฉันขอเชิญทุกท่านท่องเที่ยว
เยือนถิ่นใต้สุดแดนสยามอำเภอเบตง จังหวัดยะลา กันค่ะ
ซึ่งยังคงเป็นเมืองที่น่าท่องเที่ยวและน่าค้นหามากเลยนะคะ และยังมีอาหารขึ้นชื่อหลายอย่าง อย่าลืมมาเที่ยวเบตงนะคะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น